ยกระดับความปลอดภัยให้กับองค์กรของคุณ: อัปเกรด EPP สู่ EDR
- kwanjira2
- 6 ธ.ค. 2567
- ยาว 1 นาที

โดยทั่วไป องค์กรต่าง ๆ มักจะพึ่งพา Endpoint Protection Platforms (EPP) เพื่อเป็นเกราะการป้องกันโครงสร้างพื้นฐานขององค์กร โดยมุ่งเน้นที่อุปกรณ์ปลายทาง เช่น คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล, แล็ปท็อป, เซิร์ฟเวอร์ และเวิร์คสเตชัน ซึ่ง EPP ทำหน้าที่เป็นแนวป้องกันพื้นฐานสำหรับภัยคุกคามทางไซเบอร์ทั่วไป ถึงแม้ว่า EPP จะไม่มีฟีเจอร์หรือฟังก์ชันขั้นสูงในการป้องกัน แต่ก็ยังช่วยให้มาตรการรักษาความปลอดภัยเชิงป้องกันในการจัดการกับมัลแวร์และภัยคุกคามอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพในระดับพื้นฐานที่องค์กรสามารถพึ่งพาได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อการโจมตีทางไซเบอร์มีความซับซ้อนมากขึ้น หลายองค์กรจึงได้เสริม EPP ด้วยเครื่องมือ Endpoint Detection and Response (EDR) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามที่หลีกเลี่ยงการป้องกันจาก EPP ซึ่ง EDR ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความปลอดภัยของอุปกรณ์ปลายทางโดยการตรวจจับและตอบสนองต่อพฤติกรรมที่ผิดปกติบนอุปกรณ์ และทำหน้าที่เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ทีมไอทีสามารถตรวจสอบเหตุการณ์, ยับยั้งภัยคุกคาม, และตอบสนองต่อภัยคุกคาม โดยการแก้ไขอัตโนมัติหรือแนะนำแนวทางการแก้ไข
ความสำคัญและประโยชน์ของ EDR
EDR หรือ Endpoint Detection and Response เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการระบุภัยคุกคามใหม่ ภัยคุกคามที่ไม่รู้จัก และภัยคุกคามที่หลบเลี่ยงการป้องกันจาก EPP พร้อมทั้งทำงานด้านความปลอดภัยประจำวันให้เป็นอัตโนมัติเพื่อลดภาระการจัดการจากทีมไอที
การทำงานของ EDR
- เพิ่มการมองเห็นและการแสดงภาพของภัยคุกคาม ทำให้สามารถเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอุปกรณ์ปลายทางได้อย่างชัดเจนและรวดเร็ว
- กลไกการตรวจจับขั้นสูง เช่น Indicators of Compromise (IoC) และ Indicators of Attack (IoA) ซึ่งช่วยให้การตรวจจับภัยคุกคามมีความแม่นยำและเร็วขึ้น
- การวิเคราะห์สาเหตุหลักและสนับสนุนการล่าภัยคุกคาม ช่วยให้การค้นหาสาเหตุของการโจมตีและการแก้ไขทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การตอบสนองที่รวดเร็วและอัตโนมัติ ช่วยในการปิดช่องโหว่และตอบสนองต่อภัยคุกคามได้อย่างทันที
EDP มีประโยชน์ต่อองค์กร ดังนี้
- ช่วยให้ทีมไอทีทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดภาระในการจัดการกับเครื่องมือหลายตัว โดยทำให้การตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามเป็นไปอย่างรวดเร็ว
- ทำให้กระบวนการต่าง ๆ เป็นอัตโนมัติ ลดการพึ่งพากระบวนการแก้ไขแบบดั้งเดิมที่อาจทำให้เกิดการหยุดทำงาน
- เพิ่มความง่ายในการตรวจสอบและตรวจจับภัยคุกคาม รวมถึงการรวบรวมข้อมูลทางนิติวิทยาศาสตร์แบบรวมศูนย์ ซึ่งทำให้สามารถตอบสนองต่อการโจมตีและป้องกันการโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
EDR เหมาะสำหรับใคร?
- ธุรกิจที่มีความระมัดระวังด้านเทคโนโลยี ต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงโดยการเพิ่มการมองเห็นให้กับการป้องกันอัตโนมัติ
- องค์กรที่ใช้เทคโนโลยีเป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน และต้องการให้ผู้เชี่ยวชาญสามารถค้นหาและกำจัดภัยคุกคามที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ผู้ใช้เทคโนโลยีทั่วไปที่ต้องการพัฒนากระบวนการตอบสนองเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น
การพัฒนา EPP สู่ EDR เป็นการยกระดับความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ตอบโจทย์ภัยคุกคามที่ซับซ้อนในปัจจุบัน โดยการรวมฟีเจอร์ของ EPP ในการป้องกันพื้นฐานเข้ากับความสามารถของ EDR ในการตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติและตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่ไม่รู้จัก ช่วยให้องค์กรสามารถเพิ่มการมองเห็นและควบคุมการป้องกันภัยคุกคามได้แบบองค์รวม ลดภาระการจัดการของทีมไอทีผ่านกระบวนการอัตโนมัติ และเสริมความพร้อมในการรับมือกับความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
Comments