Just Enough Privilege (JEP) และ Just in Time (JIT) คืออะไร?
- kwanjira2
- 13 มิ.ย.
- ยาว 1 นาที
Just Enough Privilege (JEP) และ Just in Time (JIT) คือแนวทางที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยโดยการจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงและการใช้สิทธิ์การเข้าถึงในช่วงเวลาที่จำเป็นเท่านั้น ความหมายโดยรวมของ JEP และ JIT มีความหมายที่ใกล้เคียงกันแต่ข้อที่แตกต่างระหว่าง 2 หลักการนี้คือ JIT จะเน้นไปที่การจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงแค่เฉพาะช่วงเวลาที่จำเป็นเท่านั้น
หลักการของ Just Enough Privilege (JEP) และ Just in Time (JIT)
Just Enough Privilege (JEP) จะให้สิทธิ์การเข้าถึงตามที่จำเป็นเท่านั้นสำหรับการทำงานที่เฉพาะเจาะจง เช่น ผู้ใช้จะได้รับสิทธิ์เพียงพอสำหรับการทำงานในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย แต่ไม่สามารถเข้าถึงระบบหรือข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานของตนได้ ซึ่งการจำกัดสิทธิ์แบบนี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากการที่ผู้ใช้มีสิทธิ์มากเกินไป อาจส่งผลให้ถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสมหรือถูกโจมตีโดยบุคคลภายในองค์กรเอง
Just in Time (JIT) ให้สิทธิ์การเข้าถึงเฉพาะช่วงเวลาที่จำเป็นเท่านั้น โดยสิทธิ์การเข้าถึงจะได้รับหลังจากมีการขอและอนุมัติในเวลาที่จำเป็น เช่น การเปิดสิทธิ์การเข้าถึงระบบหรือทรัพยากรในช่วงเวลาที่ผู้ใช้ต้องการใช้งาน และจะถูกยกเลิกหลังจากการใช้งานเสร็จสิ้น JIT ช่วยลดเวลาและการเปิดช่องทางที่อาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตี โดยการควบคุมให้สิทธิ์การเข้าถึงมีระยะเวลาจำกัด

ความสำคัญของการใช้ JEP และ JIT
ทั้ง Just Enough Privilege (JEP) และ Just in Time (JIT) มีบทบาทสำคัญในการลดการเปิดช่องทางที่อาจถูกโจมตีจากการมีสิทธิ์การเข้าถึงมากเกินไป โดยทั้งสองแนวทางมุ่งเน้นการควบคุมสิทธิ์การเข้าถึงในระดับที่จำเป็นและในช่วงเวลาที่เหมาะสม การจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงในแง่ของความละเอียดและระยะเวลาไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตี แต่ยังช่วยให้ระบบมีการป้องกันที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดการสิทธิ์การเข้าถึง โดยที่ไม่ลดทอนความสามารถในการทำงานของผู้ใช้หรือระบบ ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลหรือเครื่องมือที่จำเป็นเฉพาะเมื่อจำเป็น และทำให้สามารถบำรุงรักษาความปลอดภัยของระบบได้ในระยะยาว
ประโยชน์ของ JEP และ JIT
ลดความเสี่ยงจากการโจมตีภายใน
- การจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงจะช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ใช้มีสิทธิ์มากเกินไป ซึ่งอาจถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม
เพิ่มความปลอดภัย
- ทั้ง JEP และ JIT ช่วยควบคุมการเข้าถึงในระดับที่จำเป็นเท่านั้น ซึ่งช่วยลดช่องทางที่อาจเสี่ยงต่อการโจมตี
การปฏิบัติตามข้อกำหนด
- ช่วยให้องค์กรสามารถปฏิบัติตามมาตรฐานและข้อกำหนดด้านความปลอดภัย เช่น การควบคุมการเข้าถึงข้อมูลที่เป็นความลับหรือทรัพยากรที่สำคัญ
การผสมผสานของ JEP และ JIT จึงเป็นหลักการในการใช้รักษาความปลอดภัยที่สำคัญในระบบและการจัดการสิทธิ์การเข้าถึงขั้นสูง ซึ่งในการใช้งาน เราจะใช้ตัว PAM และ IAM เข้ามาเป็นโซลูชันในการจัดการกับหลักการนี้ BMSP เรามีโซลูชัน PAM ในการจัดการและควบคุมการเข้าถึงของผู้ใช้ที่มีสิทธิ์สูง (privileged users) ที่ช่วยคุณจัดการ JEP และ JIT เช่น ผู้ดูแลระบบ โดยคุณจะสามารถเปิดสิทธิ์การเข้าถึงเฉพาะช่วงเวลาที่จำเป็นและบันทึกกิจกรรมทั้งหมดในการใช้สิทธิ์ได้ และ IAM ที่ช่วยในการจัดการการยืนยันตัวตนของผู้ใช้และการควบคุมสิทธิ์การเข้าถึงที่ช่วยให้คุณสามารถกำหนดสิทธิ์ตามบทบาทและความจำเป็นในการทำงาน โดยมีฟีเจอร์หลัก เช่น MFA, SSO และที่ BMSP เรายังมีโซลูชันอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องและสามารถช่วยภัยคุกคามได้ เช่น ZTNA, CASB, SIEM, DLP หรืออื่น ๆ อีกมากมาย ที่ช่วยให้องค์กรสามารถลดความเสี่ยงและเพิ่มมาตรฐานในการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยขั้นสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สนใจหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชัน PAM และ IAM ติดต่อเราได้ที่ marketing@bangkokmsp.com
Comments