ZTNA (Zero Trust Network Access) คืออะไร? ทำไมองค์กรถึงควรใช้
- kwanjira2
- 2 วันที่ผ่านมา
- ยาว 1 นาที
ในยุคที่ทุกอย่างมีความเป็นดิจิทัลมากขึ้น พนักงานก็ไม่ได้อยู่แค่ในออฟฟิศ แต่สามารถทำงานจากทุกที่ ทุกเวลา และทุกอุปกรณ์ ขณะเดียวกัน ระบบ IT ขององค์กรก็ซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ มีทั้ง Cloud, On-Premises, SaaS Application และเครือข่ายแบบ Hybrid การป้องกันด้วยไฟร์วอลล์หรือ VPN แบบเดิม ๆ จึงไม่เพียงพออีกต่อไป นี่คือเหตุผลที่แนวคิด Zero Trust Network Access (ZTNA) เข้ามามีบทบาทสำคัญ

ZTNA (Zero Trust Network Access) ในนิยามความหมายจาก Gartner คือโซลูชันที่สร้างขอบเขตการเข้าถึง (Access Boundary) รอบแอปพลิเคชัน โดยอ้างอิงจากตัวตน (Identity) และบริบท (Context) ของผู้ใช้งาน ทำให้แอปพลิเคชันถูกซ่อนจากการค้นพบ (Hidden from Discovery) และอนุญาตให้เข้าถึงได้ผ่าน Trust Broker เท่านั้น ซึ่ง Trust Broker จะตรวจสอบทั้งตัวตน ความสอดคล้องกับเงื่อนไข เช่น อุปกรณ์หรือสถานที่ รวมถึงการปฏิบัติตามนโยบายความปลอดภัย ก่อนจะอนุญาตให้เข้าถึงเฉพาะทรัพยากรที่ได้รับสิทธิ์ การทำงานแบบนี้ช่วยป้องกันการเคลื่อนย้ายโจมตี (Lateral Movement) ภายในเครือข่าย ลดการเปิดเผยแอปพลิเคชันต่อสาธารณะ และลดพื้นที่เสี่ยงจากการโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พูดง่าย ๆ คือ ZTNA คือระบบที่ “ซ่อน” แอปพลิเคชันจากสาธารณะ เปิดให้เข้าถึงได้เฉพาะคนที่ผ่านการตรวจสอบตัวตนและเงื่อนไขที่กำหนด ช่วยลดโอกาสถูกโจมตีและเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยขององค์กร
ZTNA ทำงานอย่างไร?
เมื่อผู้ใช้ต้องการเข้าถึงระบบภายในองค์กร เช่น CRM หรือ HR Portal คำขอจะถูกส่งไปยังระบบ ZTNA ซึ่งจะเริ่มต้นด้วยการตรวจสอบตัวตน (Authentication) ผ่านวิธีที่ปลอดภัย เช่น SSO, MFA หรือระบบ Identity Provider จากนั้นระบบจะทำการประเมินบริบท (Context) ของการเชื่อมต่อ เช่น ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ที่ใช้มีความปลอดภัยหรือไม่ มาจากเครือข่ายที่น่าเชื่อถือหรือเปล่า และเป็นช่วงเวลาการใช้งานที่ปกติหรือไม่
ถ้าทุกอย่างผ่านเกณฑ์ ระบบ ZTNA จะอนุญาตให้เข้าถึงเฉพาะแอปพลิเคชันที่จำเป็นเท่านั้น โดยผู้ใช้จะไม่สามารถมองเห็นหรือเข้าถึงระบบอื่นในเครือข่ายได้เหมือนการเชื่อมต่อแบบ VPN แบบเดิม นอกจากนี้ ZTNA ยังมีการตรวจสอบพฤติกรรมการใช้งานอย่างต่อเนื่อง (Continuous Monitoring) เพื่อจับความผิดปกติ เช่น การดาวน์โหลดข้อมูลจำนวนมาก หรือการเข้าสู่ระบบจากตำแหน่งที่ไม่คุ้นเคย และสามารถยกเลิกสิทธิ์การเข้าถึงได้ทันทีหากพบความเสี่ยง
ประโยชน์ของ ZTNA (Zero Trust Network Access)
การใช้ ZTNA จะทำให้องค์กรมีความปลอดภัยและยืดหยุ่นในการจัดการการเข้าถึงได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น ตัวอย่างประโยชน์ของ ZTNA เช่น
ZTNA ใช้แนวคิด "ไม่เชื่อใจใคร" ซึ่งหมายถึงการตรวจสอบและยืนยันตัวตนของผู้ใช้และอุปกรณ์ทุกครั้งที่เข้าถึงทรัพยากรภายในเครือข่าย โดยไม่สนใจว่าผู้ใช้จะอยู่ภายในหรือภายนอกเครือข่ายองค์กร
เนื่องจาก ZTNA ใช้การตรวจสอบการเข้าถึงที่รัดกุม ทุกการเชื่อมต่อจะได้รับการตรวจสอบและอนุญาตตามนโยบายที่ตั้งขึ้น จึงช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีที่มาจากทั้งภายในและภายนอก
ZTNA ให้ความสามารถในการควบคุมการเข้าถึงตามบทบาทของผู้ใช้ (RBAC) หรือระดับความปลอดภัยของอุปกรณ์ ซึ่งช่วยให้สามารถจำกัดการเข้าถึงตามความจำเป็นจริง ๆ (Least-privilege Principle)
ZTNA เหมาะสมกับการทำงานแบบระยะไกล (Remote Work) เนื่องจากสามารถตรวจสอบการเข้าถึงจากทุกที่ได้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการเข้าถึงแบบ VPN หรือไฟร์วอลล์ดั้งเดิม
ZTNA สามารถจัดการการเข้าถึงได้ง่ายขึ้นและสามารถปรับใช้นโยบายได้ทั่วทั้งระบบ ทำให้การบำรุงรักษาและการจัดการมีความยืดหยุ่นและสอดคล้องกัน
การใช้ ZTNA จะช่วยลดการใช้ทรัพยากรจากการเชื่อมต่อแบบ VPN หรือการตั้งค่าเครือข่ายที่ซับซ้อน ทำให้การเชื่อมต่อทำงานได้รวดเร็วขึ้น
ZTNA ทำให้การเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญภายในองค์กรได้รับการควบคุมและปกป้องอย่างเหมาะสม โดยสามารถจำกัดการเข้าถึงได้ตามความจำเป็น ลดโอกาสในการรั่วไหลของข้อมูล
ZTNA ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถติดตามและรายงานการเข้าถึงได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยในการตรวจสอบและตรวจหาพฤติกรรมที่น่าสงสัยหรือไม่เหมาะสมได้ง่ายขึ้น
ทำไมองค์กรควรใช้ ZTNA?
1. ปลอดภัยกว่าการใช้ VPN VPN เปิดประตูสู่ทั้งเครือข่าย แต่ ZTNA จำกัดการเข้าถึงเฉพาะสิ่งที่ผู้ใช้มีสิทธิ์จริง ๆ ลดความเสี่ยงจากการโจมตี
2. รองรับการทำงานจากทุกที่ ทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะ Work from Home, Hybrid Work หรือใช้ Mobile Device ก็สามารถเข้าถึงระบบได้อย่างปลอดภัย
3. ลดความเสี่ยงจาก Insider Threat ZTNA ใช้หลักการ Least Privilege Access ให้สิทธิ์เฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น
4. Compliance และ Audit-ready ZTNA มีการตรวจสอบสิทธิ์และบันทึกการเข้าถึงตลอดเวลา ทำให้องค์กรตอบโจทย์มาตรฐานและกฎหมายด้าน Data Security ได้ง่ายขึ้น
ZTNA เหมาะกับใคร?
องค์กรที่มีพนักงาน Remote Work / Hybrid Work
ธุรกิจที่ใช้ Cloud Application จำนวนมาก
องค์กรที่ต้องการแทนที่ VPN ด้วยโซลูชันที่ปลอดภัยและยืดหยุ่นกว่า
บริษัทที่ต้องการยกระดับ Cybersecurity ให้สอดคล้องกับแนวคิด Zero Trust Security
ZTNA ไม่ใช่แค่ “ทางเลือกใหม่” แต่คือ มาตรฐานใหม่ของ Cybersecurity ที่ตอบโจทย์โลกการทำงานแบบ Remote และ Cloud-first อย่างแท้จริง ด้วยหลักการ Zero Trust ที่ไม่เชื่อใจใครจนกว่าจะพิสูจน์ได้
หากคุณกำลังมองหาโซลูชันที่ปลอดภัยกว่าการใช้ VPN ควบคุมสิทธิ์เข้าถึงได้อย่างละเอียด และพร้อมรองรับการทำงานในอนาคต ZTNA คือคำตอบ
BMSP พร้อมช่วยให้องค์กรของคุณก้าวสู่ Zero Trust Security อย่างมั่นใจ ติดต่อเรราเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ marketing@bangkokmsp.com





ความคิดเห็น